วานนี้ (18 เม.ย.) เมื่อเวลา 22.16 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเสาธง ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ชนท้ายรถยนต์เอสยูวี มีผู้เสียชีวิต บริเวณหน้าหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ถนนสายศรีวารีน้อย อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้ง จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ บริเวณกลางถนน พบร่าง นายณัฐวุฒิ อายุ 19 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนถนน สภาพไม่สวมใส่เสื้อ สวมใส่กางเกงนักเรียนขาสั้นสีกากี และไม่ได้สวมใส่หมวกกันน็อกแต่อย่างใด ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีดำ หมายเลขทะเบียน 7611 กรุงเทพมหานคร ล้มอยู่ สภาพหน้าพังยับเยิน เบาะหลุด ที่ด้านหน้าห่างออกไปเล็กน้อย พบรถยนต์เอสยูวี ยี่ห้อ โตโยต้า สีเขียว หมายเลขทะเบียน 469 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ สภาพท้ายยุบ กระจกหลังแตก
หลังเกิดเหตุได้ไม่นาน นางสาวรจนา อายุ 20 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต หลังทราบข่าวได้อุ้มลูกสาว วัย 2 ขวบ เดินทางมายังที่เกิดเหตุพร้อมกับญาติ ซึ่งเจ้าตัวถึงกับร้องไห้เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งสวมกอดกับลูกสาวข้างศพสามี ขณะที่บุตรสาวซึ่งยังไร้เดียงสา หันมองศพพ่อและเอ่ยปากถามทำไมพ่อมานอนตรงนี้ ซึ่งพอหลายคนได้ยินถึงกับจุกในอกกับบรรยากาศในขณะนั้น จนต้องให้ญาติพาลูกสาวออกห่างจากศพพ่อไปก่อน

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทางเข้าหมู่บ้านจับภาพได้ ในขณะที่มีรถเก๋งสีเขียวมรกตคันหนึ่งขับมาจอดชิดขวาสุดเพื่อรอเลี้ยวขวาเข้าหมู่บ้าน จากนั้นไม่ถึงนาที ปรากฏว่ามีรถจักรยานยนต์ที่ขับตามหลังมาด้วยความเร็วพุ่งชนท้ายอย่างแรง จนรถคันดังกล่าวเคลื่อนขยับตัวไปข้างหน้าจากแรงกระแทกของการชน

จากการสอบถาม นางสาวรจนา ภรรยาของผู้เสียชีวิต บอกว่า สามีได้ล้างรถเสร็จก็ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้าน ซึ่งไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ โดยที่ตอนนั้นตนเองกำลังป้อนข้าวลูกสาวอยู่ในบ้าน จนไม่นานมีคนโทรมาบอกว่าสามีเกิดอุบัติเหตุจึงอุ้มลูกสาวเดินทางมาดู
ส่วน นายวาริน คนขับรถยนต์เอสยูวี คู่กรณี บอกว่า ตนเองจอดรถเพื่อจะรอเลี้ยวขวาเข้าหมู่บ้าน ไม่นานได้ยินเสียงคล้ายกระจกหลังระเบิดจึงลงมาดูพบว่ามีรถจักรยานยนต์มาชนท้าย ส่วนสาเหตุตนเองคิดว่าคนขับหน้าจะมาเร็วประกอบกับถนนที่มีทัศนวิสัยไม่ดี และมีการลอกเทลาดยางพื้นถนนใหม่จึงยังไม่มีเส้นแบ่งการจราจร

นอกจากนี้ ไฟทางยังดับมืดสนิทเป็นระยะทางยาว คนในพื้นที่จะรู้ดีว่าถนนสายนี้ไม่ปลอดภัย ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวตนเองรู้สึกเสียใจและสงสารคนขับ แต่ยืนยันว่าไม่ได้ไปทำอะไรเขา ซึ่งตนเองจอดเปิดไฟเลี้ยวและชิดขวาเพื่อรอเข้าหมู่บ้านตามปกติ

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพ และลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะเชิญตัวคนขับรถยนต์เอสยูวี ไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่โรงพัก ส่วนร่างผู้เสียชีวิตมอบให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งชันสูตรที่สถาบันรามาจักรีนฤบดินทร์ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป